การตายเป็นวาระสุดท้ายของชีวิต
การจัดงานศพให้แก่ผู้ตายนับเป็นประเพณีสุดท้ายเกี่ยวกับชีวิต
จัดขึ้นตามพิธีกรรมที่เกิดจากความเชื่อในศาสนาที่ตนนับถือ
กลุ่มคนไทยเขมรที่นับถือศาสนาพุทธก็จะจัดพิธีศพตามหลักการของศาสนาพุทธซึ่งผสมผสานอยู่ระหว่างคตินิยมเชิงพุทธกับพราหมณ์
การทำโลงศพหรือหีบศพ
แต่ก่อนชาวโย้ยไม่นิยมซื้อโลงสำเร็จรูป แต่จะช่วยกันต่อโลงเองโดยนำไม้เนื้ออ่อนมาทำ
เช่น ไม้มะม่วง ไม้ตีนเป็ด (สัตบรรณ) ไม้มะกอก ไม้ฉำฉา (จามจุรี) มาต่อเป็นโลง
โดยเริ่มจากการไปตัดไม้ที่มีอยู่แล้วตามหัวไร่ปลายนา
ตัดเป็นแผ่นหนาประมาณ2-2.5เซนติเมตร กว้างประมาณ50เซนติเมตร
แล้วนำมาต่อเป็นโลงศพตามที่ผู้ตายสั่งไว้ ซึ่งโลงศพขอชาวโย้ยจะนิยมทำกัน2แบบ
คือแบบธรรมดา (คนธรรมดาทั่วไป) และแบบที่2 ชาวโย้ยเรียกว่าหีบแอวขัว
(สำหรับคนมีฐานะ)ซึ่งหีบแอวขันมีความสูงมาก สูงประมาณ5เมตร แล้วแต่ช่างจะออกแบบ แล้วประดับด้วยกระดาษแก้วหลากสี
นำมาตัดเป็นลวดลายต่างๆ การตั้งศพนิยมตั้งที่บ้านผู้ตาย
ถ้าเป็นศพของญาติผู้ใหญ่จะตั้งไว้หลายวันตั้งแต่3 –7 วัน
ศพเด็กหรือศพคนที่มีฐานะยากจนจะตั้งไว้ 1-3 วัน ก็จะทำพิธีฌาปนกิจ
ในช่วงที่ตั้งศพสวดอภิธรรมที่บ้านจะมีประเพณีการเล่นเรียกว่า “งันเฮือนดี” หมายถึงการเล่นคบงันเพื่อสร้างความครึกครื้นเพื่อดะการโศกเศร้า โดยมีการเล่นต่างๆเช่น
เล่นหมากเก็บหอย หมากล่อไม้ เต้นกระทบไม้ หมากปิ่นบ่วงกินน้ำ หรืออื่นๆ
วิธีขั้นตอนการทำหีบศพ
1.การตัดไม้
2.การซอยไม้
การเลื่อยไม้
3.ตั้งคายก่อนทำโลง
4.การต่อโลงศพ
5.การหอ(หลังคา)
6.การทำคอกหีบชั้นที่2 (แบบธรรมดาจะเป็นชั้นที่1)
7.การทำคอกหีบชั้นที่1
(ถ้าทำแบบแอวขัน)
8.การประดับตกแต่งด้วยกระดาษหลากสี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น